A Silent Voice : รักไร้เสียง (2017)
กำกับโดย Naoko Yamada
"ความรู้สึกของฉันที่ส่งไปไม่ถึงเธอ"
นิชิมิยะ โชโกะ เด็กสาวผู้มีปัญหาทางการฟัง ได้เข้ามาในชีวิตของ อิชิดะ โชยะ ผู้ที่ใช้ชีวิตดั่งเด็กประถมแก่นๆที่ไม่รู้ประสีประสาอะไร ซึ่งเมื่ออิชิดะเห็นว่านิชิมิยะ มีปัญหาทางการฟัง จึงลงมือแกล้งแต่หารู้มั้ยว่าการแกล้งที่แรงเกินควรของโชยะนั้น จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นหลายเรื่อง
ด้านพล็อตเรื่อง หากได้ฟังคำโปรยจากค่ายหนังมาก็จะคิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวแอบรัก พระเอกแกล้งนางเอกเพราะแอบชอบอะไรแบบนั้น ซึ่งมันไม่ใช่โว้ยยย พระเอกไม่ได้ชอบนางเอกเลยในตอนนั้น แล้วสิ่งที่พระเอกซึ่งมันเกินคำว่า"หยอกล้อ" แล้วมันกลายเป็นคำว่า"กลั่นแกล้ง" ซึ่งไอ้การกลั่นแกล้งเนี่ย เป็นปัญหาของสังคมทั่วโลกมานานมากแล้ว ทั้งที่อาจจะเคยเห็นในหนังทั้งไทยและเทศ ส่วนมากผู้ที่โดนแกล้งเนี่ยก็จะเป็นคนที่มีความแตกต่างจากคนอื่น ทั้งความผิดปกติทางร่างกายเอยหรือความผิดปกติทางจิตใจเอย เฉกเช่นกับ นิชิมิยะนางเอกของเรื่อง
ในเรื่อง แทบจะไม่มีฉากโรแมนติค ไม่มีฉากฟินกัดหมอน มันแทบจะไม่ใช่หนังรักเลย ส่วนใหญ่จะมีแต่ฉากปวดตับ นั่งกัดฟันกับความเจ็บปวดกับความผิดปกติทางการได้ยินของนางเอก เคียดแค้นกับความเลวในการกลั่นแกล้งของพระเอก สะใจกับผลที่พระเอกได้รับ ขำขันกับการตบมุกฝืดๆของเพื่อนพระเอก
เมื่อเทียบฉบับอนิเมะกับมังงะ (หนังสือการ์ตูน) คือภาพถูกอัปเกรดขึ้นจากฉบับมังงะมาก ด้วยลายเส้นของสตูดิโอ เกียวโตอนิเมชั่นผู้สร้างอนิเมชั่นอย่าง K-ON!! และ Hyouka ทำให้ลายเส้นนั้นละม้ายคล้ายคลึงกันเหลือเกิน แต่ก็ด้วยเวลาแค่2ชั่วโมงทำให้ไม่สามารถใส่เนื้อหาจากมังงะ7เล่มได้เต็มที่ มีเนื้อหาถูกตัดไปค่อนข้างมาก คงเหลือไว้แต่เพียงเนื้อเรื่องของ2พระนางกับตัวประกอบคนอื่นๆอีกเล็กน้อย ทำให้เราอาจจะงงการกระทำของตัวละครบางตัวไปบ้าง แต่ก็ไม่กระทบต่อเนื้อเรื่อง เรียกได้ว่าถ้าเกิดดูเรื่องนี้จบไปแล้วไปอ่านมังงะต่อจะทำให้เราเข้าใจการกระทำบางอย่างของตัวละครบ้างขึ้น อีกทั้งยังเห็นเบื้องลึกของตัวละครหลายๆตัวเช่นแม่ของนางเอกหรือแม่ของพระเอก
สรุปได้ว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สมควรดูอย่างมากโดยเฉพาะคนที่เคยอ่าน คิดจะอ่าน หรือเป็นแฟนอนิเมชั่นตัวยง มีทั้งฉากแห่งความสุข เศร้า ดราม่าน้ำตาไหล ปวดตับแตก อีกทั้งยังได้เห็นความลำบากในการสื่อสารของผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน ทำให้เราสามารถเข้าใจพวกเขาเหล่านั้นได้มากขึ้น

ติดตามเพจ"ที่นั่งธรรมดา"ได้ที่
https://www.facebook.com/ordinaryseats/
รีวิว A Silent Voice "รักไร้เสียง" [by ที่นั่งธรรมดา]
กำกับโดย Naoko Yamada
นิชิมิยะ โชโกะ เด็กสาวผู้มีปัญหาทางการฟัง ได้เข้ามาในชีวิตของ อิชิดะ โชยะ ผู้ที่ใช้ชีวิตดั่งเด็กประถมแก่นๆที่ไม่รู้ประสีประสาอะไร ซึ่งเมื่ออิชิดะเห็นว่านิชิมิยะ มีปัญหาทางการฟัง จึงลงมือแกล้งแต่หารู้มั้ยว่าการแกล้งที่แรงเกินควรของโชยะนั้น จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นหลายเรื่อง
ด้านพล็อตเรื่อง หากได้ฟังคำโปรยจากค่ายหนังมาก็จะคิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวแอบรัก พระเอกแกล้งนางเอกเพราะแอบชอบอะไรแบบนั้น ซึ่งมันไม่ใช่โว้ยยย พระเอกไม่ได้ชอบนางเอกเลยในตอนนั้น แล้วสิ่งที่พระเอกซึ่งมันเกินคำว่า"หยอกล้อ" แล้วมันกลายเป็นคำว่า"กลั่นแกล้ง" ซึ่งไอ้การกลั่นแกล้งเนี่ย เป็นปัญหาของสังคมทั่วโลกมานานมากแล้ว ทั้งที่อาจจะเคยเห็นในหนังทั้งไทยและเทศ ส่วนมากผู้ที่โดนแกล้งเนี่ยก็จะเป็นคนที่มีความแตกต่างจากคนอื่น ทั้งความผิดปกติทางร่างกายเอยหรือความผิดปกติทางจิตใจเอย เฉกเช่นกับ นิชิมิยะนางเอกของเรื่อง
ในเรื่อง แทบจะไม่มีฉากโรแมนติค ไม่มีฉากฟินกัดหมอน มันแทบจะไม่ใช่หนังรักเลย ส่วนใหญ่จะมีแต่ฉากปวดตับ นั่งกัดฟันกับความเจ็บปวดกับความผิดปกติทางการได้ยินของนางเอก เคียดแค้นกับความเลวในการกลั่นแกล้งของพระเอก สะใจกับผลที่พระเอกได้รับ ขำขันกับการตบมุกฝืดๆของเพื่อนพระเอก
เมื่อเทียบฉบับอนิเมะกับมังงะ (หนังสือการ์ตูน) คือภาพถูกอัปเกรดขึ้นจากฉบับมังงะมาก ด้วยลายเส้นของสตูดิโอ เกียวโตอนิเมชั่นผู้สร้างอนิเมชั่นอย่าง K-ON!! และ Hyouka ทำให้ลายเส้นนั้นละม้ายคล้ายคลึงกันเหลือเกิน แต่ก็ด้วยเวลาแค่2ชั่วโมงทำให้ไม่สามารถใส่เนื้อหาจากมังงะ7เล่มได้เต็มที่ มีเนื้อหาถูกตัดไปค่อนข้างมาก คงเหลือไว้แต่เพียงเนื้อเรื่องของ2พระนางกับตัวประกอบคนอื่นๆอีกเล็กน้อย ทำให้เราอาจจะงงการกระทำของตัวละครบางตัวไปบ้าง แต่ก็ไม่กระทบต่อเนื้อเรื่อง เรียกได้ว่าถ้าเกิดดูเรื่องนี้จบไปแล้วไปอ่านมังงะต่อจะทำให้เราเข้าใจการกระทำบางอย่างของตัวละครบ้างขึ้น อีกทั้งยังเห็นเบื้องลึกของตัวละครหลายๆตัวเช่นแม่ของนางเอกหรือแม่ของพระเอก
สรุปได้ว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สมควรดูอย่างมากโดยเฉพาะคนที่เคยอ่าน คิดจะอ่าน หรือเป็นแฟนอนิเมชั่นตัวยง มีทั้งฉากแห่งความสุข เศร้า ดราม่าน้ำตาไหล ปวดตับแตก อีกทั้งยังได้เห็นความลำบากในการสื่อสารของผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน ทำให้เราสามารถเข้าใจพวกเขาเหล่านั้นได้มากขึ้น
ติดตามเพจ"ที่นั่งธรรมดา"ได้ที่ https://www.facebook.com/ordinaryseats/